2 องค์กรยักษ์โลจิสติกส์และซัพพายเชน ได้บรรลุในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิต (TLAPS) และสมาคมด้านการขนถ่ายสินค้าของประเทศญี่ปุ่น(MH) ในการจัดโครงการเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ให้กับบุคลากรในวิชาชีพและแผนการจัดสัมมนาในงาน Thailand International TRUCK SHOW 2017 ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2560 ณ อิมแพค เมืองทองธานี
สมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิต (TLAPS) เป็นองค์กรวิชาชีพที่ไม่ได้หวังผลกำไร ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมารวมตัวกัน โดยมี คุณเกียรติพงษ์ สันตะบุตร เป็นนายกสมาคม และJapan Material Handing Society (MH)โดยมี Mr.ShigeoKoshino เป็นคณะกรรมการบริหารสมาคม สิ่งสำคัญคือทั้ง 2 องค์กรได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในความร่วมมือเพื่อจัดฝึกอบรมการพัฒนาบุคลากรในด้านระบบโลจิสติกส์และการเคลื่อนย้ายลำเลียง(Logistics and Material Handling -MH) ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดยกำหนดให้จัดภายในงาน Thailand International TRUCK SHOW 2017
คุณเกียรติพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสมาคม TLAPS มีสมาชิกทั้งภาคองค์กรและบุคคลทั่วไปรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 คนวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากิจกรรมต่างๆ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับบุคลากรในวิชาชีพและเป้าหมายสำคัญคือ การช่วยพัฒนาคุณภาพโลจิสติกส์ในประเทศไทยให้ดีขึ้นนั้น ต้องเสริมสร้างความเป็นเลิศของบุคลากรซึ่งหากครั้งนี้ได้รับการร่วมมือจากสมาคมMHญี่ปุ่น ก็ถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้าอีกก้าวหนึ่งด้านการให้ความรู้บุคลากรอย่างแท้จริง
ด้าน Mr.Yukio Okuda เลขาคณะกรรมการจัดงาน Thailand International TRUCK SHOW 2017 ในฐานะตัวกลางความร่วมมือของทั้ง 2 สมาคมกล่าวว่า ในการพัฒนาด้านโลจิส ติกส์นั้น การขนส่งทางรถบรรทุกและการบรรจุภัณฑ์นั้นมีหลายประเด็นที่ต้องหารือและแก้ปัญหาร่วมกันด้วยเหตุนี้ความร่วมมือของ TLAPS และสมาคมMHญี่ปุ่นถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก
“สำหรับการสัมมนาเชิงวิชาการของ TLAPS ภายใต้ความร่วมมือของสมาคมMHญี่ปุ่นจะจัดขึ้นภายงาน Thailand International TRUCK SHOW ในเดือนมิถุนายน โดยกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่แค่ผู้เข้าชมงาน TTS 2017 หรือผู้ประกอบการขนส่งเท่านั้น แต่จะรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้าและคลังสินค้าซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความต่อเนื่องกับการขนส่งสินค้าอีกด้วย”
สำหรับงาน Thailand International TRUCK SHOW (TTS) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้งานเป็นเครื่องมือในการช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องด้านการพัฒนาโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง และมุ่งหวังให้งาน TTS เติบโตเป็นงานที่จำเป็นต่อการขนส่งทางรถบรรทุกรวมถึงโลจิสติกส์ ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
