วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
ข่าว

นิสสันซีอีโอ มร. คาร์ลอส กอส์น ประกาศทิศทางเทคโนโลยีของนิสสันและความร่วมมือสู่เป้าหมายลดการปล่อยมลพิษและความรุนแรงอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์

มร. คาร์ลอส กอส์น ประธานบอร์ดและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ได้แสดงปาฐกถาเกี่ยวกับความสำเร็จของเทคโนโลยี อัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต เพื่อลดการปล่อยมลพิษและการลดความรุนแรงของอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ ภายในงาน คอนซูมเมอร์ อิเล็กโทรนิก โชว์ (Consumer Electronics Show CES) – หรืองานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประจำปี 2017 ณ ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

“ที่นิสสัน เราไม่ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีในแบบเดียวกับที่คนอื่นๆทำ หรือเก็บไว้สำหรับรถยนต์รุ่นสูงสุด แต่เราทำจากจุดเริ่มต้นเพื่อให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีที่ดีสุดนี้มีการพัฒนาขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ของการขับขี่ที่ดีกว่าให้กับทุกๆคน ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นวิธีการของเราที่จะสร้างรถในอนาคตเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นวิธีที่เราจะสามารถเป็นผู้ผลิตรถยนต์สำหรับอนาคตอีกด้วย” มร. กอส์นกล่าว

พร้อมๆไปกับผู้บริหารของนิสสันคนอื่นๆ มร. กอส์น ประกาศ 5  แนวทางหลักสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือ Nissan Intelligent Mobility ที่จะทำให้นิสสันบรรลุการพัฒนาไม่ว่าจะเป็น การขับขี่ที่เสริมความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน หรือ Intelligent Driving การขับเคลื่อนที่ให้พลังสะอาดและไร้ซึ่งมลพิษ หรือ Intelligent Power และรวมถึงการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม หรือ Intelligent Integration

1.  เพื่อเร่งเวลาของการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ใช้ได้จริงในอนาคตอันใกล้ มร. กอส์น ประกาศความสำเร็จการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Seamless Autonomous Mobility (SAM)” หรือ การเคลื่อนที่อัตโนมัติแบบไร้รอยต่อ ที่พัฒนาจากเทคโนโลยีของแบบเดียวกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ นาซา (NASA) ซึ่งเป็นพันธมิตรของ SAM โดยเป็นการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) สำหรับการสนับสนุนเพื่อช่วยให้ยานพาหนะสามารถดำเนินการตัดสินใจในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงและสร้างการเรียนรู้ในระบบปัญญาประดิษฐ์นี้ สำหรับเทคโนโลยีอัจริยะนี้จะช่วยให้รถยนต์แบบไร้คนขับจำนวนมากสามารถอยู่ร่วมกับรถยนต์ที่ยังใช้คนขับรถได้เร็วมากยิ่งขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมของนิสสันอีกด้วย

To accelerate the time it will take for autonomous vehicles to get on the road safely, at CES 2017 Carlos Ghosn announced a breakthrough technology called “Seamless Autonomous Mobility,” or SAM. Developed from NASA technology, SAM partners in-vehicle artificial intelligence (AI) with human support to help autonomous vehicles make decisions in unpredictable situations and build the knowledge of in-vehicle AI. This technology could potentially enable millions of driverless cars to co-exist with human drivers in an accelerated timeline. It is part of Nissan Intelligent Integration.

2.  เพื่อขยายความสำเร็จของระบบขับขี่อัตโนมัติไปสู่ขั้นต่อไป มร. กอส์น ประกาศว่าในช่วงแรก นิสสันจะเริ่มต้นการทดสอบในประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ ด้วยการกำหนดเป้าหมายของการพัฒนายานพาหนะแบบไร้คนขับสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยทำงานร่วมกับ บริษัท ชั้นนำด้านอินเทอร์เน็ตของญี่ปุ่นอย่าง DeNA ซึ่งนิสสันจะมุ่งเน้นการทดสอบเพื่อก่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีนี้ และคาดหวังว่าในอนาคตการทดสอบจะขยายเพื่อครอบคลุมการให้บริการเชิงพาณิชย์ในช่วงของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก  ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพในปี 2020

Nissan at CES 2017

3.  นอกจากนี้เพื่อสร้างความก้าวหน้าของระบบขับขี่อัตโนมัติ มร. กอส์น ยังได้ประกาศแผนการที่จะสร้างความเป็นผู้นำของนิสสันในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัว นิสสันลีฟ รุ่นใหม่ในเร็วๆนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของการขับเคลื่อนที่ให้พลังสะอาดและไร้ซึ่งมลพิษของนิสสัน หรือ  Intelligent Power โดยรุ่นต่อไปของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของโลกอย่าง ลีฟ จะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี ProPILOT หรือระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่ปัจจุบันออกแบบมาเพื่อสำหรับใช้บนไฮเวย์ สำหรับการขับช่องทางเดินรถเดียว (automated single-lane highway driving)

To accelerate the time it will take for autonomous vehicles to get on the road safely, at CES 2017 Carlos Ghosn announced a breakthrough technology called “Seamless Autonomous Mobility,” or SAM. Developed from NASA technology, SAM partners in-vehicle artificial intelligence (AI) with human support to help autonomous vehicles make decisions in unpredictable situations and build the knowledge of in-vehicle AI. This technology could potentially enable millions of driverless cars to co-exist with human drivers in an accelerated timeline. It is part of Nissan Intelligent Integration.

4.  สำหรับการเชื่อมต่อของรถที่รวมระหว่าง การขับขี่ที่เสริมความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน กับการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม มร. กอส์น ยังประกาศว่าภายใต้พันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน จะยังคงความต่อเนื่องกับความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสำหรับรถยนต์ในอนาคต โดย มร. โอกิ เรดซิค รองประธานอาวุโสของพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน ด้านการเชื่อมต่อ (Ogi Redzic – Alliance SVP of Connected Cars) ได้สาธิตให้เห็นถึงวิธีการที่ เทคโนโลยีที่เป็นระบบผู้ช่วยเหลือส่วนบุคคล (personal assistant) อย่างไมโครซอฟท์ Cortana ช่วยทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและราบรื่นมากขึ้น โดย Cortana เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่พันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน และ Microsoft ค้นคว้าร่วมกัน

5.  มร. กอส์น กล่าวเสริมว่า ในปัจจุบันนโยบายและสภาพแวดล้อมของการกำกับดูแลจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของทั่วทุกมุมโลก โดย มร. กอนส์ยังประกาศความร่วมมือกับโครงการ 100 เมืองที่คงทนยั่งยืน หรือ 100 Resilient Cities (100RC) ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรอย่างมูลนิธิกี้เฟลเลอร์ ในการช่วยให้แต่ละเมืองสามารถสร้างความยืดหยุ่นรอบด้านเพื่อความท้าทายการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ทั้งนี้นิสสันถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ประกาศความร่วมมือกับโครงการ 100RC โดยจะช่วยให้เมืองวางรากฐานสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงบริการการเคลื่อนที่รูปแบบใหม่ๆ

“เราขอเชิญชวนภาคส่วนอื่นๆ ให้เข้าร่วมกับเรา ไม่ว่าจะเป็น พันธมิตรด้านเทคโนโลยีอี – คอมเมิร์ซ             ผู้ให้บริการรถยนต์เพื่อการเดินทางในรูปแบบต่างๆ ผู้ประกอบการทั่วๆไปที่จะช่วยให้เราสามารถทดสอบและพัฒนายานพาหนะและบริการใหม่ๆ เพื่อให้นิสสันมั่นใจทุกๆคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดนี้ และยังเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของทุกๆคน” มร. กอส์นกล่าวในตอนท้าย

LAS VEGAS (Jan. 5, 2017) – In his 2017 Consumer Electronics Show (CES) keynote, Nissan chairman of the board and chief executive officer Carlos Ghosn announced several technologies and partnerships as part of the Nissan Intelligent Mobility blueprint for transforming how cars are driven, powered, and integrated into wider society. These technologies will advance mobility toward a zero-emission, zero-fatality future on the roads.
Anuwat
the authorAnuwat
Producer รายการ DRIVE และผู้สื่อข่าวสายรถจักรยานยนต์ เว็บไซต์ driveautoblog.com

ใส่ความเห็น