วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
Test Drive

Toyota Fortuner 2015: คุณภาพการขับดี เครื่องยนต์แรง ช่วงล่างผ่าน งานประกอบปราณีต

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สร้างวัฒนธรรมการขับขี่รถ SUV แก่คนไทยในทศวรรษหลังนี้ไปแล้ว และฟอร์จูนเนอร์ที่ยืนอยู่บนยอดพีรามิด ก็มีทั้งคนรักมาก และก็มี “แอนตี้-แฟน” (Anti-fan) มากด้วย

[taq_review]

All New Fortuner_04

แฟนคลับ “ฟอร์จูนเนอร์” นั้นเชื่อมั่นในแบรนด์โตโยต้า แม้โดยพื้นฐานคนไทยจะมีความภักดีต่อแบรนด์ต่ำ เพราะมีนิสัยชอบเชียร์มวยรอง ชอบลองของใหม่ รถโมเดลใหม่ของแบรนด์รองหรือแบรนด์หน้าใหม่จะได้รับกระแสตอบรับที่ดี แต่เมื่อได้ลิ้มลองไปสักพัก ถ้าสมหวังก็ดีไป แต่ถ้าผิดหวังก็หันกับมาใช้รถโตโยต้า แม้ไม่ใช่สาวกก็ตามที

ส่วนเรื่องแอนตี้แฟน เกิดจากรถขายเยอะ ขายให้ลูกค้าทุกระดับหลากหลาย ลูกค้าส่วนน้อยบางคนของฟอร์จูนเนอร์ สร้างศัตรูไว้บนท้องถนนจากพฤติกรรมการขับขี่ที่หวาดเสียว จี้ท้าย ดิฟท์ไฟไล่คันอื่น เพราะรถตัวเองแรง ใหญ่ สูง ดุดันประหนึ่งเจ้าถนน แต่ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ SUV เต็มท้องถนนหลายๆแบรนด์ เดี๋ยวก็โดนด่าทั่วหน้า ก็จะเริ่มชิน ไม่โทษแต่ฟอร์จูนเนอร์ ทุกคนจะเข้าใจเองว่าเป็นเรื่องของบุคคลอย่าด่าเหมารวม

All New Fortuner_05

All New Fortuner_07

ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ไม่ได้สร้างกันง่ายๆ โตโยต้ามาไกลมากแล้ว และคุณภาพสินค้าก็เช่นกัน วันนี้เมื่อฟอร์จูนเนอร์ ทำการโมเดลเชนจ์ สังคมผู้ใช้รถก็ฮือฮา เกิดการถกเถียง เป็นเรื่องที่ดีครับ รถราคาเกิน 1 ล้านบาท เป็นการลงทุนที่สูง ก่อนตัดสินใจซื้อควรรอบคอบ

บทความชิ้นนี้ มาหลังจากรีวิวและทดลองขับที่ได้เผยแพร่ไปแล้วทาง Youtube ตามลิงค์นี้ครับ [Eng Sub] 2015 Toyota Fortuner : ช่วงล่างนุ่ม ขับเนียน ห้องโดยสารเงียบ [HD] เสียงบรรยายภาษาไทย และมี English Subtitle สำหรับแฟนรายการชาวต่างชาติ ฝากเข้าไปรับชมและพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ด้วยครับ เมืองนอกหลายประเทศรอ รถผลิตบ้านเรา พวกเราได้ลองกันแล้ว ไปช่วยกันตอบคำถามนะครับ

สุดยอดคลิป! Toyota Fortuner 2015 ช่วงล่างนุ่ม ขับเนียน ห้องโดยสารเงียบ

“ฟอร์จูนเนอร์” รูปลักษณ์ภายนอกนั้นแหวกแนวและเหนือการคาดเดาไปมาก รูปทรงของรถก็แตกต่างจากไฮลักซ์ รีโว่ (Toyota Hilux Revo) ซึ่งเป็นพื้นฐานของ SUV คันนี้ ส่วนสวยงามหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนบุคคลจริงๆ แต่บอกได้ตรงนี้ว่า ตัวรถดูสง่าภูมิฐานกว่าเดิมยามที่วิ่งอยู่บนท้องถนนร่วมกับรถคันอื่นๆ

TESTDRIVE_0055

TESTDRIVE_0035

TESTDRIVE_0036

TESTDRIVE_0045

TESTDRIVE_0048

รูปโฉมผมพูดไปละเอียดหมดแล้วในคลิป ขอสรุปคร่าวๆ ว่า ความยาว ทำให้ดูใหญ่ขึ้นไปด้วย มีความสปอร์ตกว่าเดิม เส้นสายที่เฉียบคมและดูจบในตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่เหมือนบรรลุแล้วซึ่งการดีไซน์ เมื่อเทียบกับฟอร์จูนเนอร์ตัวเก่า ที่สูงโหย่ง แต่สั้นป้อม ด้วยการพยายามสร้างให้รถมีทรงใกล้เคียงโมโนค็อค (Monocoque) SUV ให้มากที่สุด แต่พื้นฐานนั้นแตกต่างกัน มาคราวนี้ ความสมส่วนดูดีขึ้นมาก

Exterior28Sigma4_0002

ไฟหน้า ไบ-บีม แบบโปรเจคเตอร์เลนส์ หลอด แอลอีดี และไฟ DRL แบบ LED เรียง 5 หลอด คมชัดมาแต่ไกล กระจกมองข้าง มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ เสาอากาศครีบฉลาม ไฟท้าย LED แบบ Light Guideing และลายล้อแม็กซ์ ประตูท้ายบานใหญ่เปิด-ปิด ระบบไฟฟ้า ได้จากรีโมท

การเลือกใช้ไฟ DRL (Daytime Running Light) หรือเดย์ไลต์ หรือไฟกลางวัน ผสมกันระหว่างแบบหลอดและท่อ (LED Tube) ที่เป็นเหมือนตาเหยี่ยวและลากหางตาขึ้นไป อยู่ในชุดโคมเดียวกันเหนือโคมลูกแก้วโปรเจคเตอร์ เลนส์ เป็นการให้ลายละเอียดที่ดี รถคันจริงวิ่งกลางวันโดดเด่นมากๆ หาดูรถคันจริงได้บนท้องถนน เพราะรถส่งมอบไปแล้วอย่างต่อเนื่องก่อนที่สื่อมวลชนจะได้ทดลองขับ

Exterior28Sigma4_0005

Exterior28Sigma4_0009

มองด้านข้าง ทรงของรถน่าเกรงขาม สีน้ำตาลมาแบบหรู สีขาวมาแบบนักธุรกิจ ส่วนสีดำนี่ อดให้นึกถึงรถซีไอเอหรือเอฟบีไอ ในหนังฮอลลีวู้ดไม่ได้ อย่าถึงกับเรียกรถมือปืนหรือรถนักการเมืองเลย จะดูสายมืดไปหน่อย ไม่แฟร์กับเพื่อนที่ซื้อไป (ฮา)

Exterior28Sigma4_0012

ด้านท้ายฟอร์จูนเนอร์ โดดเด่นที่ชุดโคมไฟท้าย และยังคงผสมกันระหว่างไฟเบรกเป็นหลอด LED กับไฟหรี่แบบ LED Tube ที่โตโยต้าเรียกว่า Light Guideing มองผ่านๆ คล้ายๆกับโตโยต้า แฮริเออร์ รถนำเข้ายอดนิยมอีกรุ่นหนึ่ง

Exterior28Sigma4_0015

Exterior28Sigma4_0014

Exterior28Sigma4_0016

Exterior28Sigma4_0017

ภายในผมก็เห็นคล้ายๆ กับคนในสังคมออนไลน์เรื่องความหรูหราของห้องโดยสาร โดยเฉพาะตัวท้อป ที่ใช้เบาะสีชามัวร์ สีน้ำตาลอ่อน ส่วนตัวเครื่องยนต์ 2.4 ก็มีความสปอร์ต

บ้างก็ว่า เสาคู่ตรงคอนโซลกลางดูเกะกะ แต่ทางโตโยต้าเพิ่มตรงนี้เข้ามาเพื่อปรับให้ชุดแผงควบคุมเป็นสัดส่วนและดูหรูหรา ส่วนพวงมาลัยยังคงเป็นอะไรที่ทำออกมาแล้วดูบึกบึน ตรงนี้เป็นเรื่องของจิตวิทยา เห็นแล้วจะได้ดูมั่นใจ

Interior28_0004

อุปกรณ์ติดรถที่ให้มา ดูดี ใช้งานง่าย ใช้งานยากที่สุดคือชุดเครื่องเสียงติดรถ ที่พัฒนาแล้ว แม้จะดีกว่าของเดิมเยอะมาก แต่ยังไม่ดีเท่ากับคู่แข่ง ถ้าคุณบอกว่า “เอาอะไรมากกับเครื่องเสียงติดรถ” เอ่อ…คู่แข่งเค้าไปถึงไหนกันแล้ว แม้แต่รถเล็กราคาต่ำล้านก็ให้มาดีแล้วทุกวันนี้ นี่ไม่ได้พูดในฐานะนักฟังเพลง แต่พูดในฐานะที่ส่วนตัวไม่ชอบแต่งรถหรือยุ่งกับระบบไฟของรถ และเปรียบเทียบกับรถแบรนด์ตลาดทั่วไปที่ลองขับมาและลองฟังเครื่องเสียงติดรถของรถหลายรุ่น

ถ้าคุณบอกว่า “เอาอะไรมากกับเครื่องเสียงติดรถ” เอ่อ…คู่แข่งเค้าไปถึงไหนกันแล้ว แม้แต่รถเล็กราคาต่ำล้านก็ให้มาดีแล้วทุกวันนี้

Interior28_0005

เบาะนั่งทำมาดีครับ โตโยต้าซีเรียสมากครับ อะไรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณภาพการขับขี่และหลักความปลอดภัย ตรงนี้แบรนด์รถญี่ปุ่นไม่ค่อยพลาด แต่ที่พลาดก็คงเป็นไม่ให้เบาะไฟฟ้าคู่หน้า ให้เพียงฝั่งคนขับ ไม่มีให้แม้ตัวท้อป ตรงนี้หลายคนก็ตำหนิ ผมก็เห็นด้วยครับ เพราะรถราคาขนาดนี้ ควรเป็นสิ่งที่ควรได้ จะบอกว่าของแค่นี้ ใส่ออพชั่นหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ มาให้ แต่บางอย่างเป็นเรื่องความความสึกครับ (เริ่มจะดราม่า 555)

“ครุยซ์ คอนโทรล” ก็เช่นกัน ให้มาแค่ตัวบนๆ ตัวเครื่อง 2.4 ไม่ได้เลย อันนี้เกี่ยวกับความสบายในการขับขี่โดยตรง ใช่ครับ รถคันเก่าไม่มียังขับกันได้ แต่โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจ้า

Interior28_0025

Interior28_0030

เห็นมีคนมาคอมเมนท์ไว้ในเพจ ของพวกเรา ว่า ในคลิปรีวิว ตัวผมเองยังตกใจ เมื่อเปิดประตูผู้โดยสารแถวสอง ไม่พบมือจับขึ้นรถสำหรับ SUV ที่เสาบี ยอมรับว่าตกใจจริงๆ ครับ คู่แข่งทำรายละเอียดตรงนี้มาดี ผมแปลกใจเหมือนกันว่า วิศวกรท่านคิดอย่างไร ไม่ชีวิตจริงก็ขับกันแต่รถเก๋ง ไม่นับมือจับบนเพดานนะครับ นั่นต้องมีอยู่แล้ว เอาไว้พยุงตัวตอนนั่งรถ แต่จะปีนขึ้นรถนี่ลำบากอยู่ คนมีอายุไม่แข่งแรงวูบหงายหลังมีเจ็บตัวได้

Interior28_0031

แต่เบาะแถวสองนั่งสบายมากครับ งานปราณีตต่อเนื่องทั้งคันมาตั้งแต่แดชบอร์ดและเบาะนั่งคู่หน้า มีแอร์ออโต้ให้ด้วย สำหรับผู้โดยสาร ตรงนี้ปรบมือเลยครับ สไตล์รถยุโรป ดึงที่พักแขนออกมา นั่งสบายเลยยาวๆ

เบาะแถวสามฟอร์จูนเนอร์นั่งได้จริง และสบายที่สุดในบรรดา SUV ที่มีเบาะแถวสาม 7 ที่นั่ง ทั้งแบบพื้นฐานจากรถกระบะ และแบบโมโนคลอก นี่คือข้อดีของเบาะแถวสามแบบแขวนที่ฟอร์จูนเนอร์ใช้มาตลอด ต่างจากบางค่ายที่ลองมาหมดแล้วทั้งแขวนและพับ ส่วนระยะยาวจะเสียงดังจากการโยกคลอนหรือไม่ต้องถามลูกค้ารุ่นเก่า

เบาะแถวสามฟอร์จูนเนอร์นั่งได้จริง และสบายที่สุดในบรรดา SUV ที่มีเบาะแถวสาม 7 ที่นั่ง ทั้งแบบพื้นฐานจากรถกระบะ และแบบโมโนคลอก

ข้อด้อยของเบาะแถวสามของฟอร์จูนเนอร์ เมื่อแขวนขึ้นก็คือเกะกะ ทัศนวิสัยด้านหลังแคบลงไป และพื้นที่วางสัมภาระน้อยกว่าเพื่อน แต่โยโยต้าต้องเลือกมาทางนี้ เพราะแพลตฟอร์มหรือโครงสร้างพื้นฐานรถบังคับไว้ด้วย ใต้พื้นท้องรถตรงตำแหน่งเบาะนั่งมียางอะไหล่ เหมือนกันหมดตอนนี้สำหรับ SUV

แต่เมื่อเลือกใช้เบาะแขวน ข้อดีก็มีครับ ผมว่าเบียดเรื่องเกะกะลงไปเสียด้วย เพราะจะมีพื้นที่ลาดลงไปให้ห้อยขา เข่าจึงไม่ชัน จะนั่งได้ไกลขึ้นแบบข้ามจังหวัดกันเลย ค่ายอื่นก็ยอมรับเรื่องนี้ แต่ต้องหนีไปพับเพราะความทนทานของวัสดุระยะยาวไม่ดีเท่าโตโยต้า

Interior28_0034

ในโหมดการขับขี่ ผมลองรุ่นเครื่อง 2.4 ในทางออนโร้ด และ 2.8 ในทางออฟโร้ด ให้ไอเดียแบบนี้ว่า เครื่องยนต์แรงเหลือเฟือ พื้นฐานวิศวกรรมที่เหนือชั้นของโตโยต้า ทำเครื่องยนต์มาแรง ขับสนุก แต่ทั้งสองตัว หลังไม่ติดเบาะนะครับ วิศวกรเค้าตั้งใจโปรแกรมมิ่ง ซอฟต์แวร์ ให้รถมีคาแลคเตอร์แบบนุ่มนวล แต่กดมาทันที แบบลอยๆ คนที่ชอบความดิบของเครื่องดีเซล ชอบพุ่งๆ อาจจะหงุดหงิดสักนิด แต่ถ้าคนที่แคร์ผู้โดยสาร จะชอบครับ จะได้ไม่เมารถ

คาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์รหัส GD วิศวกรจูนมาให้แนวสุภาพ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทุกอย่างมีเหตุผลครับ ก็มาจากผลวิจัยการตลาดในเรื่องกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รถมหาชนครับ แม้ลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ส่วนตัวเป็นอย่างไร ก็ขับได้หมด

Interior28_0006

ชุดเกียร์แบบเกตไทป์ ทำหน้าตาออกมาหรูหรา ดูจริงจัง ปราณีตกว่ารุ่นก่อนมาก หัวเกียร์สปอร์ต มีโหมด +/- มาให้ เลือกใช้เพื่อความมัน สำหรับคนที่ไม่ชอบแพดเดอล ชิพท์ ที่พวงมาลัยมัลติ ฟังก์ชัน ตรงนี้ไม่ต้องเถียงกันเลย โตโยต้าให้มาทั้งสองที่ พร้อมปุ่ม Eco และ Power Mode ที่จะปรับภาพรวมการขับทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำมัน การเปลี่ยนเกียร์และการตอบสนองของคันเร่ง เพื่อเป้าหมายการขับที่แตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์

ช่วงล่างนุ่มนวล นั่งสบาย เจนเนอเรชั่นนี้ทำมาดีตั้งแต่ตัวไฮลักซ์ รีโว่แล้ว จากการเพิ่มขนาดความหนาของหน้าตัดแพลตฟอร์ม และตำแหน่งที่ยยึดกับระบบกันสะเทือนหน้าหลังก็เป็นแพลตฟอร์มแบบเหล็กสองชั้น เพิ่มความยาวคอม้า ดูดซับแรงกระแทกและกดล้อทั้งสี่ให้ตั้งฉากกับถนนตลอดเวลา หน้ายางสัมผัสถนนเต็มที่และยึดเกาะ

ยิ่งพอมาพัฒนาเป็นฟอร์จูนเนอร์ที่ใช้คอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ การดูดซับแรงสะเทือนทั้งหน้าหลังยิ่งดีขึ้น ประกอบกับเบาะนั่งที่สบาย แม้ยังเทียบกับรถซีดานไม่ได้ แต่กับ SUV สักคันหนึ่ง ได้ขนาดนี้ถือว่ายอดเยี่ยม

Interior28_0035

Interior28_0037

Interior28_0033

Interior28_0041

Interior28_0043

การเก็บเสียงห้องโดยสาร เป็นเรื่องเซอร์ไพร์สสำหรับฟอร์จูนเนอร์โฉมนี้ ความเงียบทุกช่วงความเร็ว เรียกว่าเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงการทำงานของรถ ที่ทางวิศวกรยอมให้ได้ยิน งงไม๊ครับ? ไหนว่าเงียบ ทำไมได้ยินเสียงเครื่องยนต์

ผมขอพูดใหม่ว่า ถ้าเสียงดังอื้ออึง คุณจะได้ยินเสียงอะไรอื่นหรือไม่? เพราะถ้าเสียงกระแสลมปะทะ หรือเสียงยางบนถนน หรือเสียงที่เกิดจากการประกอบที่ไม่ดีนั้นดัง คุณจะพูดคุยกันก็ต้องตะเบง เปิดเครื่องเสียงดังกลบ เวียนหัวไปหมด

แต่เมื่อคุณภาพของการประกอบดี ดีไซน์ที่ดี มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำ แอร์โรว์ ไดนามิค ที่ดี ซีลจุดต่างๆ จนมิดชอบไม่ให้เสียงลมเล็ดรอด ห้องโดยสารก็จะเงียบ พอเงียบ คุณก็คุยกันปกติก็รู้เรื่อง และพอเงียบ ก็จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ทำงานเบาๆ

จากปกติก็ได้ยินอยู่แล้วในรุ่นก่อน แต่ผสมเสียงลมที่อื้ออึงไปด้วย ซึ่งโดยรวมจะน่ารำคาญ แต่คราวนี้เสียงเครื่องที่ได้ยิน ก็จะไพเราะกว่า เร้าใจดีครับ ยิ่งเป็นเครื่องดีเซลแบบนี้ (หรือผมอาการหนักแล้ว ถ้าชอบฟังเสียงเครื่อง ฮาๆๆๆ)

ระหว่างที่ขับขี่ ทัศนวิสัยดีมากครับ รถญี่ปุ่นยุคหลังไม่พลาดเรื่องคุณภาพการขับ กระจกทุกบานไม่มีหลอกตา การจัดวางตำแหน่งปุ่มบังคับอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งเหมาะสม ตำแหน่งไฟฉุกเฉินแยกขึ้นไปไว้เดี่ยว ง่ายต่อการกดโดยไม่ต้องเหลือบมองและควานหา

คุณภาพการขับขี่ในโค้งดีขึ้นมาก แม้ว่าช่วงล่างจะนุ่ม แต่ในโค้งรถยังนิ่ง ระบบการควมคุมเสถียรภาพการขับขี่ก็มีให้มา หากต้องขับรถท่ามกลางถนนเปียกลื่น ส่วนระบบความปลอดภัยพื้นฐานของรถพรีเมียมนั้นให้มาครับ ทั้ง ABS EBD BA ถุงลงนิรภัย

ผมนั่งในฟอร์จูนเนอร์ ที่ความเร็วระดับ 120 – 140 กม./ชม. ไม่รู้สึกว่าเครียด จากช่วงล่างที่นิ่งและความเงียบของห้องโดยสาร ตรงนี้คิดว่าจบแล้วสำหรับการใช้งานจริงสำหรับทุกท่าน ผ่านครับ น่าคบหากันยาวๆ เป็นรถเพื่อการเดินทางของครอบครัว

minnie driveautoblog
Editor at driveautoblog | Youtuber | Vlogger | Blogger