วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
Test Drive

Volvo V40 Cross Country D4 2016 : ครอสโอเวอร์ดีไซน์ลุย คุณภาพการขับขี่สูง ระบบความปลอดภัยครบ

Volvo V40 Cross Country D4 รถยนต์ที่มาพร้อมสมรรถนะที่แตกต่าง ขายความเป็นตัวตนที่ชัดเจน นี่คือเหตุผลที่วอลโว่ส่งรุ่น Cross Country ที่แยกรุ่นออกมาจาก V40 ปกติ แม้จะมาจากพื้นฐานเดียวกัน แต่ถ้าคุณได้ลองขับ คุณจะเห็นความแตกต่างที่มากกว่า รูปลักษณ์ภายนอกอย่างแน่นอน

[taq_review]

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (11)

นี่คือ Volvo V40 Cross Country D4 รถแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ที่ต่อยอดมาจากรุ่น V40 ปกติ ความแตกต่างก็คือ เอกลักษณ์ของความเป็นครอสคันทรี การออกแบบภายนอกที่ดูเป็นรถเล็กสายลุย คงความสปอร์ต ถ้าถามว่า อะไรที่แตกต่างจาก V40 ปกติ ตอบได้สั้นๆครับว่า “สไตล์” มีตัวถังที่สูงกว่า V40 ทั่วไปถึง 40 มิลลิเมตร ด้านหน้าของ V40 Cross Country D4 ยังคงความสปอร์ต แต่เสริมความแข็งแกร่งเข้าไปด้วยกระจังหน้าลายรังผึ้ง พร้อมไฟ Daytime Running Light ที่เฉียงขึ้นเพื่อความทันสมัย

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (50)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (54)

ด้านข้างของรุ่นครอส คันทรี ไม่ได้มีเส้นสายที่ซับซ้อน เน้นงานออกแบบที่กลมกลืน รับกันตั้งแต่ด้านหน้าลากไปยังท้ายสุด ด้านล่างตัดขอบด้วยสีดำ ตามแบบฉบับของรถยนต์สไตล์นี้ ล้อแม็ก 6 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว ท้ายรถ เน้นงานออกแบบที่กลมกลืนรับกับด้านข้าง เสริมจุดเด่นด้วย แผงกันกระแทก skid plate ด้านล่าง พร้อมคำว่า CROSS COUNTRY ให้ความสปอร์ตด้วยท่อไอเสียคู่ ทรงกลม

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (21)

งานออกแบบภายใน ยังคง DNA ของวอลเว่ไว้อย่างชัดเจน วัสดุชั้นดีงานออกแบบปราณีต ห้องโดยสารโทนสีเข้ม ให้ความเป็นสปอร์ต แผงคอนโซลกลาง และหน้าปัดทำมุมเอียงหันไปด้านคนขับ เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญได้สะดวกจากหน้าจอสี 7 นิ้ว วอลโว่ได้ติดตั้งจอในตำแหน่งค่อนข้างสูงบนแผงคอนโซลหน้าเพื่อให้ผู้ขับมองเห็นข้อมูลและถนนได้อย่างชัดเจนพร้อมๆ กัน แผงปุ่มกดต่างๆ ยังถูกจัดวางให้ใช้งานง่ายใกล้มือแค่เอื้อม ทางวอลโว่เรียกระบบที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถ ใช้งานอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็วนี้ว่า “Sensus” ระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นต์รองรับการเล่นไฟล์จาก CD และ DVD รวมไปถึงการเชื่อมต่อ ipod, AUX, USB พร้อมลำโพง 8 ตัว ที่ตอบสนองย่านความถี่ได้อย่างครอบคลุม

V40 Cross Country ติดตั้งหน้าจอแสดงผล Adaptive Digital Display ที่สามารถควบคุม และผู้ขับขี่สามารถเลือกแสดงข้อมูลในการขับขี่ได้ถึง 3 รูปแบบ

Original.4d48418a-fef3-43a7-8c36-9e2c5b782281

  • Elegance แสดงผลด้วยโทนดำ ในรูปแบบดั้งเดิมแต่ทำให้อ่านง่ายด้วยภาพกราฟฟิก เช่น สัญลักษณ์แสดงระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ (Park Assist Pilot) และระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information) ทางด้านซ้ายจะเป็นหน้าปัดแสดงอุณหภูมิเครื่องยนต์ อุณหภูมิภายนอก และระดับน้ำมันในถัง ส่วนด้านขวาจะแสดงรอบเครื่องยนต์ เวลา และตำแหน่งเกียร์ที่ใช้

Original.2709de74-7a15-4600-b034-844fe54b79d6

  • Eco แสดงผลด้วยโทนสีเขียว สร้างแรงบันดาลใจเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม   มาตรวัดแบบ Eco จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ แสดงปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ในขณะนั้น และปริมาณการใช้เชื้อเพลิงสะสม หากผู้ขับขี่ประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุดก็จะมีไฟเขียวแสดงขึ้น ส่วนทางด้านซ้ายจะแสดง Eco Guide ที่วัดความเร็วรถ ความเร็วรอบเครื่อง ตำแหน่งวาล์วปีกผีเสื้อ (Throttle) และการเบรกเพื่อประเมินความประหยัดของเชื้อเพลิง และแนะแนวทางให้ผู้ขับขับขี่ประหยัดมากยิ่งขึ้น  และจะมีกราฟเส้นแสดงว่าประหยัดน้ำมัน รวมทั้งมีการคำนวณอัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยใน 2-3 นาทีที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเมื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ยิ่งสัญลักษณ์ดังกล่าวอยู่ใกล้ด้านบนมากเท่าไร ไฟเครื่องหมาย e จะติดแสดงว่ามีการประหยัดเชื้อเพลิงมาก ระบบนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดพลังงานได้ในทุกสถานการณ์

Original.bf3d1e55-4314-42e9-8a23-ec29f551d666

  • Performance แสดงผลด้วยโทนสีแดง ให้อารมณ์สปอร์ต มาตรวัดตรงกลางจะแสดงมาตรวัดรอบเครื่องแทนที่จะเป็นความเร็วรถอย่างในแบบ Elegance หรือ Eco  ความเร็วของรถจะแสดงในรูปแบบตัวเลขดิจิตอลตรงกลาง ทางด้านขวาเป็นมาตรแสดงพลังที่บอกให้ผู้ขับทราบว่าในแต่ละวินาทีรถมีกำลังอยู่เท่าไร และใช้ไปเท่าไร Power Guide ช่วยให้ผู้ขับขี่เร่งได้เต็มที่เพื่อการแซงอย่างปลอดภัย

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (28)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (23)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (25)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (19)

อุปกรณ์ภายในอื่นๆ ได้แก่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นเพาเวอร์ไฟฟ้าแร็คแอนด์พิเนียนแบบ 3 ก้าน ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมระบบแกนพวงมาลัยยุบตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ความพิเศษของพวงมาลัย ยังอยู่ที่การปรับน้ำหนักของพวงมาลัยตามความเร็วรถ โดยคุณสามารถเลือกความไวของการบังคับเลี้ยวโดยรวมได้ 3 ระดับในหน้าจอ SENSUS คือ ออกแรงบังคับเลี้ยวน้อย ปานกลาง และมาก

เบาะนั่งทูโทน วัสดุผิวสัมผัสดี ออกแบบให้โอบกระชับลำตัว ช่วยให้ควบคุมรถง่าย ยามต้องขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แต่แถวสองพับแบ่งพื้นที่ได้ 40/60 มีพื้นที่วางขาจำกัด หากเป็นคนตัวสูงใหญ่ หรือขายาว นั่งนานไปคงไม่ดี จอดแวะยืดเส้นยืดสายบางจะดีกว่า

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (16)

ฝาปิดท้าย ยังไม่ใส่ระบบ Auto Lift Gate มาให้ อันนี้ก็น่าเสียดายสำหรับรถยนต์ราคาขนาดนี้ มาดูช่องเก็บสัมภาระกันดีกว่า ก็อย่างที่เห็นนะครับ

Diesel Engine 2

V40 Cross Country วางเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ทวินเทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว พิกัด 2.0 ลิตร 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 400 นิวตันเมตรที่ 1,740-2,500 รอบต่อนาที ความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เครื่องยนต์ดีเซลที่มีกำลังแรงบิดขนาด 400 นิวตันเมตร ติดตั้งอยู่บนตัวถังของรถที่มีขนาดกระทัดรัดแบบนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องการออกตัวแต่อย่างได้ครับ บวกกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อม Geartronic และ Paddle Shift เกียร์ลูกใหม่นี้ พัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างวอลโว่และ Aisin AW เพื่อตอบสนองการขับขี่ที่ดี ราบเรียบนุ่มนวล ประหยัดเชื้อเพลิง และประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ V40 เครื่องยนต์ดีเซล เป็นรถยนต์ที่มีอัตราการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ดี ไม่แพ้ใคร

อัตราสิ้นเปลือน้ำมันเชื้อเพลิงที่วอลโว่เครมไว้มีดังนี้

ในเมืองเฉลี่ย 16.53 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร
นอกเมืองเฉลี่ย 22.73 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร
รวมในเมือง และนอกเมืองเฉลี่ย 20 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร

2016 Volvo V40 Cross Country (11)

2016 Volvo V40 Cross Country (6)

ก็ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง ที่ได้เจอสภาพเส้นทางที่ฝนตก เรียกว่าเป็นผลดีในด้านการทดลองขับ เพราะได้เจอกับถนนที่เปียกลื่น แม้ตัวรถจะสูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากขนาดดูเป็นรถประเภทครอสโอเวอร์เอสยูวี ยังคงมีความเป็นรถยนต์นั่ง 5 ประตู ฉะนั้นการอาการโยนตัว จึงไม่ได้มีมากมายนัก แต่ถ้าเทียบกับรุ่น V40 ปกติ สิ่งที่ รุ่น Cross Country มีมากกว่าคือ ความนุ่มนวล ไม่กระด้างแบบ V40 และที่สำคัญ สมรรถนะในการยึดเกาะถนนของช่วงล่าง ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย

วอลโว่ V40 สร้างความมั่นใจในการขับขี่ด้วยการใส่ระบบ Roll Angle Sensor เป็นระบบควบคุมการทรงตัว และยึดเกาะถนนแบบไดนามิก (Dynamic Stability and Traction Control – DSTC) ให้ทั้งความปลอดภัย และขับขี่ที่สนุก เพราะระบบ Advanced Stability Control ใช้เซ็นเซอร์วัดมุมโคลง (Roll Angle Sensor) เพื่อประเมินความเสี่ยงที่รถจะลื่นไถลตั้งแต่แรกเริ่ม และเปิดให้ระบบควบคุมการทรงตัวทำงานได้เร็วและแม่นยำ รวมทั้งช่วยให้สามารถบังคับควบคุม และหลีกเลี่ยงการลื่นไถลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2016 Volvo V40 Cross Country (5)

2016 Volvo V40 Cross Country (3)

2016 Volvo V40 Cross Country (4)

2016 Volvo V40 Cross Country (2)

พวกมาลัยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (EPAS) ที่ผมได้บอกไปก่อนแล้วว่า ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับน้ำหนักของพวงมาลัยได้เอง ก็ดูรูปกันมาตามภาพเลยครับ เริ่มที่การเข้าไปที่ My V40 2. เข้าสู่เมนู Settings 3. เลือก Vehicle Settings 4. เลือก Steering force level (จะมีระดับแสดงขึ้นมาให้เราเลือก Low,Medium,High)

สำหรับผมเอง ผมชอบระดับ Medium ครับ ไม่เบาจนเกินไป ควบคุมได้แม่นยำ คล่องตัว แต่บางคนอาจจะชอบระดับ High ระดับนี้ก็จะหนักขึ้นไปอีก แต่จะให้ความมั่นใจมากๆ ในเวลาที่คุณขับด้วยความเร็วสูงๆ ก็เป็นเรื่องของความชื่นชอบในการปรับแต่งคาแร็คเตอร์ในการขับขี่ของแต่ละครับ

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารนั้น ต้องบอกว่าเงียบครับ เสียงลม ถ้าไม่จับสังเกตุกันจริง ก็ไม่ได้ยินครับ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ดีเซล ที่ครางเข้ามาทุกครั้งที่เติมคันเร่ง ไม่ถือเป็นเสียงที่น่ารำคาญครับ เพราะมันให้อารมณ์ความเร้าใจในการขับขี่มากกว่า

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (42)

ด้านความปลอดภัย วอลโว่ V40 Cross Country มาพร้อมที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวก เน้นไปที่ระบบปลอดภัยเชิงป้องกัน และเทคโนโลยี ที่ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่

สตาร์ทและหยุดรถอัจฉริยะ
ระบบ Start/Stop ติดตั้งมาในเครื่องยนต์ทุกชนิดและทุกระบบส่งกำลัง เทคโนโลยีนี้ช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อหยุดรถ เครื่องยนต์จะหยุดทำงานเมื่อเข้าเกียร์ว่าง หรือเมื่อเหยียบเบรก เมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะติดขึ้นโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ดี บางครั้งเครื่องยนต์จะไม่ดับทุกครั้งที่หยุดรถ เพราะเทคโนโลยีนี้จะคำนวณปัจจัยต่างๆ เอง แต่จะไม่ดับเครื่องหากเครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ หรืออุณหภูมิเย็นไปหรือร้อนไป หรือเมื่อแบตเตอรี่อ่อน และเมื่อผู้ขับขี่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ผู้ขับขี่สามารถปิดระบบ Start/Stop ได้เมื่อต้องการโดยกดปุ่มที่กลางหน้าปัด ปุ่มที่มีไฟ LED จะสว่างอยู่หากระบบดังกล่าวกำลังทำงาน ระบบนี้ สามารถลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงลงได้ถึง 5% โดยเฉลี่ยเมื่อขับขี่ในเมืองและนอกเมือง และ 10% เมื่อขับขี่นอกเมือง

Lane Keeping Aid ระบบแจ้งเตือนเพื่อป้องกันรถวิ่งออกนอกเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ระบบนี้ จะใช้กล้องด้านหน้าตรวจจับเส้นแบ่งเลนทั้งด้านซ้าย และขวา ระบบจะบันทึกแนวที่รถวิ่งไปข้างหน้า หากหัวรถเบนออกนอกแนวที่ควรจะเป็น ระบบจะทำงานทันที โดยที่เครื่องยนต์จะส่งแรงบิดเพิ่มมายังพวงมาลัย และเตือนด้วยการทำให้พวงมาลัยสั่นเพื่อให้คนขับดึงให้รถกลับเข้ามาในแนวที่ควรจะเป็น ระบบนี้ทำงานในขณะที่รถกำลังขับขี่ด้วยความเร็วระหว่าง 65-200 กม./ช.ม.

ระบบเซ็นเซอร์เรดาร์แจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตา (Enhanced Blind Spot Information system – BLIS – radar sensor) ระบบแจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตารุ่นใหม่ ที่ใช้เรดาร์ที่อยู่มุมท้ายรถหลังกันชนช่วยในการติดตามและแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถขับมาทางด้านหลังในจุดที่อับสายตาทั้งด้านซ้าย และขวาห่างไปในระยะ 70 เมตร จากเดิม 9 เมตร จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนเลนเรดาร์ที่มุมทั้งสองข้างของกันชนหลังจะตรวจจับว่ามีรถคันอื่นเข้ามาในรัศมีด้านหลังรถและด้านข้างของรถหรือไม่ และจะส่งสัญญาณเตือนโดยที่ไฟ LED ที่เสา A จะติดขึ้น

ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติใหม่ (Active High Beam) โดยระบบนี้จะเปิดเป็นไฟสูงตลอดเวลา แต่เมื่อมีรถสวนมา ระบบจะลดระดับแสงของไฟสูงให้พ้นจากสายตารถที่สวนมา ขณะเดียวกันก็ยังคงส่องสว่างเป็นไฟสูงในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ที่ไม่รบกวนสายตารถที่อยู่ด้านหน้าหรือที่สวนมา ระบบดังกล่าวทำงานโดยใช้เทคโนโลยีสะท้อนแสงไฟที่ติดตั้งอยู่ในไฟหน้า ซึ่งจะปรับระดับความสว่างของแสงอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ เมื่อพ้นไปแล้วก็จะปรับมาเป็นไฟสูงเหมือนเดิมเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน

ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติยังสามารถทำงานร่วมกับระบบไฟหน้าแบบหักเหตามพวงมาลัย (Active Bending Lights) รวมทั้งเซ็นเซอร์วัดน้ำฝนเพื่อปรับการทำงานของไฟและที่ปัดน้ำฝนซึ่งจะให้ ทัศนวิสัยที่ดีที่สุดแก่ผู้ขับขี่ในสถานการณ์ต่างๆ

ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด Cross Traffic Alert ช่วยเป็นตาหลังให้คุณ เช่นในกรณีที่มีจักรยาน หรือคนเดินเท้าผ่านมา แต่ผู้ขับขี่อาจจะมองไม่เห็นเป็นบางครั้งและในกรณีที่ระยะห่างจากวัตถุนั้นไม่มาก ระบบจะทำงานตลอดเวลาที่วัตถุนั้นยังอยู่ในรัศมี โดยส่งสัญญาณเสียงและมีภาพกราฟิกเตือนที่หน้าปัดรถยนต์

Volvo V40 Cross Country

Park Assist Pilot ระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ ระบบ Park Assist Pilot ถูกพัฒนาขึ้นเนื่องจากผลการวิจัยของ TNS ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระดับโลกพบว่า หนึ่งในสามของผู้ขับขี่ในยุโรปมีปัญหาในการจอดขนานขอบทาง ส่วนในอังกฤษ สองในสามของผู้ขับขี่ระบุว่าการจอดขนานขอบทางเป็นเรื่องยาก ระบบ Park Assist Pilot ช่วยให้จอดแบบขนานขอบทางได้อย่างง่ายดาย โดยที่ระบบอัจฉริยะจะควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถเอง ผู้ขับขี่เพียงกำหนดความเร็วและเกียร์เท่านั้น ระบบนี้ทำงานโดยเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า หลัง และข้างรถ

อัตราโซนิคเซ็นเซอร์สำหรับช่วยจอดที่ติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งเซ็นเซอร์บนกันชน 2 จุด ที่มองเห็น 90 องศาทำหน้าที่วัดระยะที่ว่างที่จะจอด เมื่อกดปุ่มที่กลางแผงหน้าปัด ระบบจะทำงาน หากระบบคำนวณว่ามีพื้นที่ว่างทางด้านข้างพอที่จะจอดรถ ระบบจะส่งสัญญาณบอกคนขับและแสดงข้อมูลบนหน้าจอว่าพื้นที่พร้อม รวมทั้งบอกคนขับด้วยว่าให้เปลี่ยนเป็นเกียร์อะไรก่อนที่จะหยุดชั่วครู่และเริ่มทำงานอีกครั้ง ระบบดังกล่าวจะควบคุมการบังคับเลี้ยวโดยอัตโนมัติ และผู้ขับขี่ต้องบังคับเบรกและคันเร่งเอง

Park Assist Pilot จะวัดระยะห่างของช่องว่าง หากมีความยาวเป็น 1.2 เท่าของความยาวรถ ระบบจะเตือนคนขับด้วยสัญญาณเสียง และแนะนำให้หยุดรถโดยแสดงข้อความบนหน้าปัด หากพื้นที่ว่างมีจำกัด ระบบจะแจ้งเตือนให้คนขับเดินหน้าหรือถอยหลังเพื่อให้จอดได้ง่ายขึ้น โดยแสดงข้อความและภาพบนหน้าปัดเพื่อให้คำแนะนำทีละขั้นตอนจนกว่ารถจะเข้าที่จอดได้เรียบร้อย และเมื่อจอดเสร็จแล้วระบบจะแจ้งให้ทราบด้วยสัญญาณเสียงและข้อความบนหน้าปัดอีกครั้ง หากไม่ต้องการใช้ระบบ Park Assist Pilot ก็สามารถจอดรถเองได้ โดยอาศัยเซ็นเซอร์ช่วยจอด (Park Assist Sensor)

2016 Volvo V40 Cross Country D4 (3)

ผู้ขับขี่สามารถสั่งให้ระบบ Park Assist Pilot ทำงานได้เมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ช.ม. อย่างไรก็ดี ระบบนี้จะทำงานเมื่อความเร็วของรถต่ำกว่า 30 กม./ช.ม. โดยจะส่งสัญญาณเตือนให้คนขับชะลอความเร็วลงก่อนที่ระบบจะทำงาน

ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information) ช่วยแสดงป้ายจราจรสำคัญ ระบบจะแสดงป้ายสำคัญบนหน้าปัด และมาพร้อมกับสัญญาณเตือนระดับความเร็ว (Speed Alert) ที่จะแสดงภาพสัญญลักษณ์ของป้ายจราจรบนมาตรวัดความเร็ว หากขับขี่ด้วยความเร็วเกินกำหนดเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรและลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะในขณะ ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ผู้ขับไม่สามารถ

ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (City Safety) – ครอบคลุมความเร็วถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบนี้ ติดตั้งเซ็นเซอร์แบบเลเซอร์ที่กระจกบังลมด้านบนในตำแหน่งเดียวกับกระจกมองหลัง รถจะหยุดตัวเองหากคนขับไม่แตะเบรก ขณะที่รถคันหน้าชะลอความเร็ว หรือหยุด หรือเมื่อรถพุ่งเข้าหารถคันหน้าที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเร็วสูงเกินไป ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหากความเร็วของรถคันหน้ากับคันหลังต่างกันไม่ถึง 15 กกิโลเมตรต่อชั่วโมง และช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุหากความเร็วของรถทั้งสองคันต่างกันระหว่าง 15-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับขี่แสดงอาการเหนื่อยล้า (Driver Alert Control) ระบบนี้ทำงานโดยมีกล้องและเซ็นเซอร์หลายตัว พร้อมด้วยเครื่องควบคุม กล้องจะวัดระยะห่างของรถกับเส้นแบ่งเลน ส่วนเซ็นเซอร์พิเศษจะตรวจจับทิศทางการเคลื่อนที่ของรถยนต์ ระบบควบคุมจะบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและคำนวณว่าผู้ขับขี่เสียสมาธิหรือสูญเสียการควบคุมรถหรือไม่ แล้วจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมด้วยข้อความบนหน้าปัดโดยแสดงภาพถ้วยกาแฟเพื่อแนะนำให้ผู้ขับขี่นั้นหยุดพักจนกว่าจะดีขึ้น ต้องบอกว่าระบบนี้ ทำให้ผมต้องแวะจอดเข้าร้านกาแฟมากขึ้นครับ

ระบบที่กล่าวมาหลายๆระบบ ก็มีอยู่ในรถยนต์ค่ายฟอร์ดด้วย เช่นใน Ford Ranger และ Ford Everest ก็เพราะ วอลโว่ และฟอร์ดได้จับมือแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีต่างๆกันมาหลายปีแล้วครับ

Volvo V40 Cross Country D4 มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี คือ Ice White Solid, Ember Black Metallic, Bright Silver Metallic, Osmium Grey และ สีใหม่ล่าสุด Power Blue Metallic ราคาค่าตัวอยู่ที่ 2,099,000 บาท

ทั้งหมดก็คือ Volvo V40 Cross Country D4 ถามว่าเหมาะกับใครก็ต้องเหมาะกับคนที่อยากได้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี และชอบความแตกต่าง ตัวรถที่ดูสปอร์ต ในขณะเดียวกัน ก็ดูลุยได้บ้าง แต่ไม่เน้นสมบุกสมบัน ได้เครื่องยนต์ประหยัด ยิ่งเป็นเครื่องดีเซล ราคาน้ำมันต่อลิตรก็ยิ่งถูกกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ขนาดกระทัดรัด ไปไหนมาไหนก็คล่องตัว เทคโนโลยี ที่เน้นความปลอดภัย ก็ใส่มาให้ไม่ยั้ง จะขาดก็เพียงอุปกรณ์ความสะดวกสบายอย่าง หน้าจอ 7 นิ้ว แต่เสียดายที่ไม่ได้ติดตั้งระบบกล้องมองหลังมาให้ และฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ก็เท่านั้น ด้วยราคาแตะ 2 ล้าน ต้องชอบ และต้องรักสปอร์ตยกสูงคันนี้จริงๆ

Volvo V40 Cross Country Spec 1

V40_Back

V40_Diesel

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (35)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (26)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (27)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (39)

Volvo V40 Cross Country Driveautoblog (30)

2016 Volvo V40 Cross Country D4 (1)