DriveAutoBlog
วันเสาร์, ตุลาคม 5, 2024
ข่าว

“เกีย” เปิดตัวโลโก้ใหม่ในประเทศไทย พร้อมแนะนำ Kia Carnival Limited ขายจำนวนจำกัด

บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกียในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เปิดตัวโลโก้และเป้าหมายใหม่ของแบรนด์เกียในประเทศไทย ผ่านแนวคิด “การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ”  หลังจากเปิดตัวที่ประเทศเกาหลีใต้ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมเผยโฉม “เกีย คาร์นิวัล ใหม่ รุ่นลิมิเต็ด” และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ในแต่ละรุ่นย่อย เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

มร. ซงโฮซอง ประธานกรรมการบริหาร เกีย คอร์เปอร์เรชั่น กล่าวว่าเกีย อยู่ในอุตสาหกรรมของ Movement หรือ “การเดินทาง” มากว่า 75 ปี เริ่มต้นจากการผลิตรถจักรยานคันแรกในประเทศเกาหลีใต้ ไปจนถึงการผลิตรถจักรยานยนต์และรถบรรทุก โดยปัจจุบันนี้เกียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก และได้ผลิตรถยนต์ให้กับผู้คนกว่าหลายล้านคนทั่วโลก ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ เกียเชื่อว่า “การเดินทางสามารถสร้างแรงบันดาลใจ” ได้  เพราะการเดินทางช่วยให้ผู้คนได้ค้นพบกับสถานที่ใหม่ พบเจอผู้คนกลุ่มใหม่ และพบกับประสบการณ์ชีวิตใหม่ เกียจึงนำแนวคิดนี้มาเป็นจุดศูนย์กลางของเป้าหมายใหม่ของแบรนด์ – Movement that inspires หรือ การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ โดยมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้มีความแปลกใหม่ สะดวกสบาย เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ เพื่อให้เกียเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้คนตลอดทุกการเดินทาง”

“อุตสาหกรรมยานยนต์โลกในขณะนี้กำลังเผชิญภาวะการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเกียก็มุ่งมั่นตั้งใจที่จะปรับตัวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนี้ สำหรับโลโก้ใหม่ของเกีย นับเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงพันธสัญญาในการเป็นไอคอนของความเปลี่ยนแปลง และนวัตกรรมใหม่ ออกแบบโดยเน้นความเรียบง่าย และทันสมัยมากขึ้น มีลักษณะคล้ายกับการเขียนด้วยลายมือที่มีเส้นเชื่อมต่อกัน เพิ่มความเฉียงของตัวอักษร และลักษณะของเส้นที่พุ่งขึ้น แสดงถึงความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน สู่การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต” มร. ซงโฮซอง กล่าวเพิ่มเติม

นางธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ ศิริมงคลเกษม กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของเครือยนตรกิจกว่า 72 ปี และในฐานะของยนตรกิจ เกีย อีกกว่า 22 ปี เราให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนในสังคมไทยมาโดยตลอด สำหรับแบรนด์เกียในประเทศไทย ได้มีการเติบโต ขยายธุรกิจและเครือข่าย รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอ ทั้งนี้ เพื่อสานต่อเป้าหมายใหม่ของเกีย ในด้านผลิตภัณฑ์ จะมีการนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า และในด้านการบริการ มีแผนขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเพิ่มอีก      2 แห่งภายในปีนี้ เพื่อรองรับการเติบโต และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกท่าน”

สำหรับโลโก้ใหม่ของเกีย จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน นี้เป็นต้นไป โดยเริ่มจากการเปลี่ยนโลโก้บนตัวรถ รวมไปถึงโลโก้ที่ใช้ในการสื่อสารทางการตลาดต่างๆ ในส่วนของ     โชว์รูมและศูนย์บริการรูปแบบใหม่ จะพร้อมให้บริการภายในปลายปีนี้

นางสาวฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “นอกเหนือจากการเปิดตัวโลโก้ และเป้าหมายใหม่ ครั้งนี้ ยนตรกิจ เกีย ได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ในแต่ละรุ่นย่อยของ “เกีย คาร์นิวัล ใหม่” พร้อมทั้งได้เพิ่มรุ่นย่อยพิเศษ “เกีย คาร์นิวัล ใหม่ รุ่นลิมิเต็ด” เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้ เกีย คาร์นิวัล ใหม่ เป็นยนตรกรรม Premium MPV ที่ครบครันด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อมทั้งฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ที่พร้อมช่วยให้ตลอดทุกการเดินทางของผู้ใช้งานเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ดี และขับเคลื่อนแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในชีวิต”

โดย เกีย คาร์นิวัล ใหม่ ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • เกีย คาร์นิวัล ใหม่ รุ่นลิมิเต็ด (Kia Carnival Limited) ราคา 2,045,000 บาท – รุ่นย่อยพิเศษ มีจำนวนจำกัด
  • เกีย คาร์นิวัล ใหม่ รุ่นอีเอ๊กซ์ (Kia Carnival EX) ราคา 2,144,000 บาท – มาพร้อมระบบที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Charger และระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
  • เกีย คาร์นิวัล ใหม่ รุ่นเอสเอ๊กซ์แอล (Kia Carnival SXL) ราคา 2,495,000 บาท มาพร้อมหน้าจอ Panoramic Dashboard Display หรือ หน้าจอเรือนไมล์ Digital Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM) และระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor