วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
AdvertorialHome

“โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์” งามหยดหัวจรดท้าย วัสดุพรีเมียม ระบบเซฟตี้จัดเต็มคุ้มค่า ด้วยราคาเริ่มต้น 1.3ล้าน! ในรุ่นธรรมดา และ 1.5 ล้านในรุ่นพิเศษ

“โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” (Toyota Fortuner) รถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการเปิดตัวในเจเนเรชั่นที่ 2

ในวันนี้ “ฟอร์จูนเนอร์” ได้ทำการปรับโฉมครั้งใหญ่ บนหลักการ “Prestige & Cool” มากยิ่งขึ้น เพื่อสะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำของผู้ขับขี่อย่างมีระดับ เน้นความหรูหราและทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยกลางคนที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว และใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยในครั้งนี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มาพร้อมกันถึง 2 รุ่น 2 ดีไซน์ นั่นก็คือ รุ่นมาตรฐาน และรุ่นพิเศษ ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์ (Fortuner Legender) รวมทั้งหมด 7 รุ่นย่อย ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,319,000บาท ซึ่งถือว่าราคาไม่ได้สูงไปกว่าเจ้าอื่นๆ ในตลาดรถ PPV

ราคาจำหน่าย Toyota Fortuner ทั้ง 7 รุ่น มีดังนี้

เจาะลึก Toyota Fortuner Legender

ในส่วนของ รุ่นพิเศษ “ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์” (Fortuner Legender) ขึ้นชาร์ตติดลมบนในสื่อสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มทันทีที่เปิดตัว เพราะลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มองหารถที่โดดเด่นด้านรูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย และสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นพิเศษได้ง่ายขึ้น จากการวางจำหน่ายฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์4 รุ่นย่อย ในราคาเริ่มต้นที่ 1,564,000 บาท (ราคารวมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ)

ดีไซน์ภายนอก…โดดเด่นในทุกมิติ ยากเกินจะละสายตา

ดีไซน์ภายนอกออกแบบให้หรูหรา และยกระดับความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น สะกดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ ไฟเลี้ยวแบบ Sequential ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 20 นิ้ว ไฟหน้าใหม่ Full LED แบบ Dual Projector พร้อม Daytime Running Lights ไฟท้ายใหม่แบบ LED Light Guiding หลังคาดำดีไซน์พรีเมียม

ดีไซน์ภายใน…ประณีตในทุกรายละเอียด มีสเน่ห์ในทุกสัมผัส

มาตรวัดเรืองแสง New Optitron Meter พร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว แสดงรายละเอียดการขับขี่อย่างชัดเจน

กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นตอนกลางคืน

ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หรือ Paddle Shift

ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร New Ambient Illumination

เบาะนั่งคนขับและเบาะผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางเพื่อความสะดวกสบาย เบาะปรับพับแถว 2 แบบ One Touch

และเบาะหนังสีทูโทน ที่ผสานความสปอร์ตและความพรีเมียมไว้ในหนึ่งเดียว

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย…อีกขั้นแห่งความล้ำหน้า สู่ความสะดวกสบายเหนือระดับ 

หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อกับทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ช่องต่อ USB บริเวณคอนโซกลาง 2 ตำแหน่งเพื่อความสะดวกสบายในการชาร์จไฟให้กับผู้โดยสาร ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง 11 ลำโพง ให้คุณภาพเสียงคมชัด

ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า Kick Activated Back Door และระบบป้องกันการหนีบ

กล้องมองรอบคันเพิ่มทัศนวิสัยปลอดภัยยิ่งขึ้น สัญญาณเตือนกะระยะ 6 ตำแหน่งช่วยระวังมุมอับสายตาเวลาจอดรถ

สมรรถนะการขับขี่…พลังการขับเคลื่อนระดับผู้นำ พาคุณสู่ทุกความสำเร็จก่อนใคร

ขับขี่ง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว Variable Flow Control

ช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ช่วยซับแรงสั่นสะเทือน ช่วงล่างด้านหลัง แบบโฟร์ลิงค์ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง มั่นคงและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power

ที่สุดแห่งขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ เผาไหม้เชื้อเพลิงได้สมบูรณ์แบบให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง (Flat Torque) ตอบรับทุกการขับขี่อย่างเต็มสมรรถนะ ประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (110 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที พร้อมด้วยเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ในเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร เพิ่มความเงียบและความนุ่มนวลในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

ระบบเทอร์โบแปรผันประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศ ด้วย

Sport Mode ในเครื่องยนต์ 2.8 ระบบเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้น

มอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังแรงต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว

ที่สุดของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Sigma 4

Sigma 4 System ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้คุณควบคุมรถได้ดั่งใจ ตอบรับกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างไรขีดจำกัด โดยสามารถเลือกระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ สำหรับสภาพถนนปกติ ช่วยให้ขับขี่นุ่ม นวล และประหยัดน้ำมัน เลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับสภาพถนนเปียกลื่น และทางลูกรังเพิ่มสมรรณะในการขับขี่ และสำหรับเส้นทางที่ต้องใช้กำลังการขับเคลื่อนสูง และใหม่ล่าสุดกับระบบแสดงสถานการณ์เลี้ยวของล้อ เพื่อความสะดวกสบาย ง่ายต่อการขับขี่

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

Toyota Fortuner Legender ครบครันในเรื่องระบบความปลอดภัยล้ำสมัย Toyota Safety Sense ได้แก่ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) เรดาร์จะตรวจจับรถที่อยู่ด้านหน้า พร้อมทำการส่งสัญญาณเตือนและช่วยเบรกเพื่อลดโอกาสและความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert) เมื่อขับรถออกนอกช่องทางโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวหรือเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอ MID และพวงมาลัยจะทำการหน่วงกลับอัตโนมัติ

ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)ควบคุมความเร็วรถให้คงที่ พร้อมตรวจจับรถที่อยู่ด้านหน้าด้วยเรดาร์และลดความเร็วอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย

ในส่วนระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนการชน หรือ Active Safety ก็มีให้ครบ อาทิ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) ระบบการควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (TSC) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ดิสก์เบรก 4 ล้อ เพิ่มความมั่นใจในทุกจังหวะเบรก

ในด้านระบบความปลอดภัยเชิงแก้ไขหลังการชน หรือ Passive Safety ได้แก่ ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทก เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นที่ห้องโดยสาร พวงมาลัยแบบยุบตัวได้เพื่อป้องกันแรงกระแทกด้านหน้า ELR Seatbelt 3 จุด 7 ที่นั่ง พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติสำหรับเบาะคู่หน้าช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ

T-Connect by Toyota …เชื่อมการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

ระบบ T-Connect by TOYOTA ยังได้ถูกพัฒนาเพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลในทุกสถานการณ์กับฟังก์ชันสำคัญ ได้แก่ Find My Car เช็กตำแหน่งรถ REAL TIME ได้ทุกที่ ทุกเวลา

SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง “อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบางกรณี” TheftTrack ติดตามรถหายเมื่อถูกโจรกรรมพร้อมประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง Geo-Fencing ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากขอบเขตที่คุณกำหนดไว้

Telematics CARE…ให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่าย

จัดการได้ทุกปัญหาด้วยบริการแจ้งเตือนล่วงหน้า Maintenance Reminder แจ้งเตือนเข้าศูนย์บริการพร้อมประสานงานนัดหมาย Vehicle Information แสดงสถานะรถยนต์ ข้อมูลการขับขี่สรุปทริปการเดินทาง พร้อมให้คุณแชร์ลงโซเชียลอีกทั้งบริการแจ้งเตือนต่อทะเบียนรถประจำปีล่วงหน้าอัตโนมัติ

Insurance PHYD ประกันภัยรถ “ขับดี ลดให้” สิทธิพิเศษด้วยเบี้ยประกัน จ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่อีกทั้งช่วยแจ้งเตือนต่อประกันภัยฯ ล่วงหน้าอัตโนมัติ ”สำหรับการทำประกันภัยกับบริษัทฯ ที่กำหนดไว้เท่านั้น

และ เชื่อต่อความสุขทุกเส้นทางกับ Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมดูแลคุณตลอดการเดินทาง

นอกจากเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น ลูกค้ายังสามารถสบายใจและวางใจกับบริการหลังการขายของรถยนต์ Toyota Fortuner ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอะไหล่และศูนย์บริการที่ครบครันทั่วประเทศ หรือ กระทั่งการขายต่อที่ได้ราคา และโตโยต้ายังเปิดประสบการณ์ทางเลือกใหม่แห่งการใช้รถเพื่อให้คุณได้ลองสัมผัสรถ Toyota Fortuner Legender ได้ง่ายดายยิ่งขึ้นกับการเช่ารถระยะยาว กับ KINTOอีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจ New Toyota Fortuner Legender สามารถไปสัมผัสและทดลองขับกันได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมรถยนต์โตโยต้าทั่วประเทศ

 

*การใช้บริการ T-Connect ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเข้าใช้งานตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถ ข้อมูลเพิ่มเติม www.t-connect.in.th

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์ มี 4 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 3 สี (สีใหม่ 1 สี) ได้แก่ Emotional Red Black Top (ใหม่) *** White Pearl CS Black Top *** Attitude Black Mica

ราคาจำหน่าย

  • รุ่น 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Legender  เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
  • รุ่น 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
  • และรุ่น 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท

 

(*** สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

ใส่ความเห็น