วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2024
AdvertorialSpecial Report

พิสูจน์สมรรถนะ “มิชลิน ไพรมาซี่ 4” ยึดเกาะดี รีดน้ำเยี่ยม แม้ดอกสึกเทียบสะพานยาง!

จุดขายของยางในซีรีส์มิลลิน ไพรมาซี่” (Michelin Primacy) คือ ชื่อเสียงในเรื่องนุ่ม+เงียบที่ผู้ใช้รถทั่วโลกทราบกันดี และในยางรุ่นใหม่มิชลิน ไพรมาซี่ 4” ได้พัฒนาการออกแบบยางและดีไซน์ดอกยาง รวมถึงร่องรีดน้ำ ให้มีประสิทธิภาพการรีดน้ำดีขึ้นแม้ใช้ไปจนดอกยางสึก ฉะนั้น ยุคนี้สมรรถนะยางรถยนต์วัดกันตอนที่เป็นยางเก่า!

รีวิว มิชลิน ไพรมาซี่ 4 ในสภาพดอกยางลดต่ำถึงสะพานยาง!

มิชลิน ไพรมาซี่ 4 ดีไซน์หน้ายางให้กว้างขึ้น เพื่อเพิ่มหน้าสัมผัสยางกับถนน ขยายขนาดร่องรีดน้ำให้กว้างและก้นหลุมทรงเหลี่ยม เมื่อดอกยางสึก ร่องรีดน้ำยังคงรูปเดิม รีดน้ำได้มากและรวดเร็ว ให้ระยะเบรกบนพื้นเปียกสั้น แม้จะใช้ไปจนเทียบสะพานยาง

หลังจากที่ยาง ไพรมาซี่ 4 วางจำหน่าย มาในสโลแกนอายุยางเปลี่ยน ความมั่นใจไม่เคยเปลี่ยน” (Safe When New, Safe When Worn) เพื่อตอกย้ำคุณสมบัติเด่นในเรื่องสมรรถนะการเบรกทั้งตอนใหม่และใกล้หมดดอก และยังได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของยางนุ่มเงียบ

และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ไพรมาซี่ 4 ได้รับเสียงตอบรับที่ดี อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่เปลี่ยนยางไปใหม่ทุกคน ก็จะยังไม่มีใครรู้ว่า ยางจะสามารถทำหน้าที่ได้ตรงตามคุณสมบัติได้ดีแค่ไหนเมื่อดอกยางสึก เพราะยางยังใหม่มากในตลาด การทดสอบคราวนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ทางมิชลินยอมให้สื่อมวลชนทดลองขับรถที่ติดตั้งยางไพรมาซี่ 4 จำลองการสึกหรอ ดอกยางเหลือเพียง 2-3 มิลลิเมตร เทียบสะพานยาง ภาษาชาวบ้านคือดอกยางเหี้ยนแล้วนั่นเอง

รถทดสอบเป็น Toyota Camry ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการขายของ ไพรมาซี่ 4 โดยรถโมเดลอื่นๆ ที่เป็นเป้าหมายการขาย อาทิ Honda Accord , Nissan Teana , Toyota Corolla , Honda Civic , Mazda 3 , Mercedes-Benz E-Class และ C-Class , BMW 5 Series และ 3 Series เป็นต้น

การทดสอบยาง ไพรมาซี่ 4 จัดทำขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปกติเป็นฤดูแล้งของประเทศไทย แต่ในปัจจุบันฟ้าฝนตกไม่ตรงกับฤดูกาล เหมือนฟ้าเป็นใจให้ฝนถล่มลงมาในเส้นทางทดสอบ เราจึงได้ทดสอบสมรรถนะการรีดน้ำของยางที่จำลองการสึกหรอ ได้สังเกตทั้งการรีดน้ำ การควบคุมรถบนถนนเปียก ระยะเบรกและการยึดเกาะถนน

ยางไพรมาซี่ 4 มาพร้อมเทคโนโลยี EverGrip™ เป็นการผสานการทำงานกันอย่างลงตัวของ 2  เทคโนโลยี คือ “ร่องรีดน้ำแบบใหม่” โดยออกแบบให้ร่องดอกยางเป็นทรงเหลี่ยมมากขึ้นและกว้างกว่าเดิมเมื่อเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีพื้นที่ในการรีดน้ำเพิ่มขึ้น 50% ทั้งเมื่อยางใหม่และใกล้หมดดอก และแม้ร่องรีดน้ำจะกว้างขึ้นแต่กลับมีพื้นที่หน้าสัมผัสมากขึ้นด้วย

และยังทำงานร่วมกับสูตรผสมเนื้อยางสมรรถนะสูงนวัตกรรมล่าสุดเนื้อยางสูตรพิเศษคุณภาพสูงที่เพิ่ม Active Bonding Element ทำให้โมเลกุลของซิลิก้ากับโพลิเมอร์ยึดเกาะกันได้ดีและสม่ำเสมอกว่าสูตรเนื้อยางธรรมดาทั่วไป ทั้งยังส่งผลให้เนื้อยางมีความยืดหยุ่นกว่าและเกาะบนถนนเปียกได้ดีกว่า

ในสถานการณ์ฝนตกหนักระดับใบปัดน้ำฝนระดับสาม เมื่อลดความเร็วลงมาอยู่ที่ราวๆ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สิ่งที่เราพบในการทดสอบขับรถที่ติดตั้งยางไพรมาซี่ 4 จำลองการสึกหรอ คือ ในทางตรงรถยังคงมีเสถียรภาพที่ดี การควบคุมรถในทางโค้งยังคงนิ่ง และช่วงคาสะพาน ยกคันเร่งและจับพวงมาลัยให้มั่นคง ก็สามารถผ่านไปได้ มีอาการเหินน้ำน้อยมาก

และในสภาพการขับขี่แบบฝนปรอย หลังจากฝนตกหนักและมีน้ำเจิ่งนองบนผิวถนน ยางไพรมาซี่ 4 ที่ดอกยางต่ำถึงสะพานยาง ยังสามารถทำความเร็วได้ดี ไม่ต้องปรับตัวมากกับระยะเบรก การขับขี่ไม่ต่างจากยางใหม่

เคล็ดลับที่ทำให้ยางคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ที่ดีแม้ดอกยางจะลดต่ำลง อยู่ที่โครงสร้างที่แกร่งขึ้น จากการเพิ่มชั้นของใยโลหะและขนาดของความหนาแน่นของเนื้อยางในชั้นโครงสร้างและชั้นผ้าใบที่ทำหน้าที่ระบายความร้อน สามารถดูได้จากภาพตัวแนวขวางของหน้ายาง ไพรมาซี่ 4 เทียบกับยางแบรนด์คู่แข่งในสภาพจำลองการสึกหรอ

อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานของลูกค้าทั่วไป หากดอกยางลดต่ำถึงสะพานยาง เราแนะนำอย่างยิ่งว่าต้องเปลี่ยนยางชุดใหม่ทันที ไม่ควรนำมาทดสอบแบบที่เราทำอยู่

ยังมีเทคโนโลยีอีกตัว ที่อยากจะกล่าวถึง แม้ว่ายางชุดนี้ที่ดอกเหี้ยนถึงสะพานยางแล้ว เทคโนโลยีตัวนี้ก็จะหายไปด้วย คือ เทคโนโลยี Silent Rib รุ่นสอง ที่ช่วยลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้าไปภายในห้องโดยสารด้วยแถบเนื้อยางเสริมระหว่างบล็อกดอกยางแบบเต็มหน้ายาง (Inter-Locking Bands) ซึ่งไม่เพียงช่วยลดเสียงที่เกิดจากการบีบอัดอากาศภายในช่องว่างของบล็อกดอกยาง แต่ยังช่วยให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น จึงให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สบายตลอดการเดินทาง

แม้ว่าแถบเนื้อยาง Silent Rib จะหายไปในกรณีที่ดอกยางสึกหรอ แต่ความเงียบก็ยังคงอยู่ จากสูตรเนื้อยางที่ยืดหยุ่นขึ้น แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และการคงรูปทรงที่ดีของดอกยางร่องรีดน้ำก็ทำให้กระแสอากาศไหลผ่านได้ดี เกิดเสียงรบกวนสะท้อนขึ้นมาน้อย

สรุปได้ว่า ยางมิชลิน ไพรมาซี่ 4 เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ยิ่งวันไหนฝนตกความคุ้มค่ายิ่งมากขึ้นทวีคูณ ความคุ้มค่าไม่ได้ลดลงเลยเมื่อใช้รถและยางไปในแต่ละวัน สวนทางจากความเข้าใจเดิม ที่ยางจะดีที่สุดแค่ตอนยังใหม่ และสมรรถนะก็จะเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ แต่กับ ไพรมาซี่ 4 ยังคงให้ความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะและรีดน้ำ แม้ดอกยางสึกหรอจนถึงสะพานยาง สามารถมั่นใจได้ว่า ทุกการเดินทางของครอบครัวจะยังปลอดภัยเสมอ

ใส่ความเห็น